ในสังคมไทยของเราเริ่มจะมีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น จะเป็นสังคมแห่งผู้สูงอายุเหมือนกับที่มันได้เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น นั่นก็เพราะในช่วงเวลาที่มีประชากรเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดนั้นประชากรชุดดังกล่าวเริ่มเข้าสู่ผู้สูงวัย และวัยชราแล้วนั่นเอง หากแต่เป็นที่น่าเสียดายว่ากลุ่มผู้สูงอายุคนไทยมีหลายคนที่ต้องแก่ชราลงมาโดยไม่มีเงินเก็บเอาไว้ใช้ในยามแก่เฒ่าเลย ได้แต่หวังพึ่งพิงลูกหลานซึ่งบางครั้งก็เพิ่งได้บ้างไม่ได้บ้าง
ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงอยากจะขอพาท่านไปรู้จักการลงทุนเพื่อให้เงินที่เราเก็บหอมรอมริบเอาไว้นี้มันงอกเงยเป็นดอกผลออกมาว่าให้เราเก็บกินในยามแก่ต่อไปนี้
1 .ฝากเงินเอาไว้ให้ธนาคารเอาเงินไปหมุน
ขอบอกว่าการลงทุนสำหรับคนที่ไม่รู้จะบอกว่าตนเองสนใจอะไร ก็มักจะลงท้ายที่เอาเงินไปฝากธนาคารไว้ก่อน ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คงจะไม่ผิดอะไรสักเท่าไหร่เพราะหากคุณมีเงิน มากจริงๆ ก็คงไม่มีใครอยากจะเอาติดตัวไว้เป็นจำนวนมากหรอกนะ อย่างไรก็ตามคุณต้องรู้ไว้ด้วยว่าดอกเบี้ยของธนาคารตอนนี้มันช่างลดน้อยถอยลงจากดอกเบี้ยของธนาคารในสมัยอดีตเมื่อหลายปีก่อนเป็นอย่างมาก จากเดิมที่ให้ดอกเบี้ยตั้งแต่ 3 ถึง 5 บาทในปัจจุบันถูกปรับลดลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง
ธนาคารส่วนใหญ่ให้ดอกเบี้ยแค่ปีละประมาณ 1 บาท เท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วการลงทุนในธนาคารจะเป็นการลงทุนให้ความเสี่ยงที่น้อยหากแต่ก็เงินปันผลออกมาน้อยเช่นเดียวกัน
2. ลงทุนทำมาค้าขายเป็นอาชีพเสริม
สำหรับคนที่มีงานประจำอยู่แล้วส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่อยู่ในเมืองใหญ่หรือในกรุงเทพฯ มักจะเลือกที่จะประกอบอาชีพใดอาชีพหนึ่งเป็นอาชีพเสริมโดยถือเป็นการลงทุนเพื่อให้มีกำไรจากการค้าขายได้เล็กๆน้อยๆ ซึ่งที่ดังกล่าวก็ดีมากสำหรับคนที่รู้จักตัวเองดีและพึ่งพาตัวเองมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม เจ้าของเงินผู้ลงทุนในธุรกิจส่วนตัวในการทำมาค้าขายนี้จะต้องแบกรับความเสี่ยงไว้เอง
3.ลงทุนซื้อบ้านให้เช่า
เป็นการลงทุนทำธุรกิจแบบเริ่มต้นง่ายๆ ที่ใครก็พอจะนึกถึงวิธีการนี้ได้ หากแต่คุณก็จะต้องมีเงินทุนมากเสียหน่อยในการซื้อบ้านหรือห้องชุด เอามาเปิดบริการให้เช่า ซึ่งถ้าได้ลูกค้าดีก็ดีไป จะได้ลูกค้าไม่ดีก็จะปวดหัวเสียเปล่าๆ แต่ก็ดีนั่นก็คือความเสี่ยงค่อนข้างจะต่ำมากที่เราจะขาดทุนเพราะอย่างน้อยที่สุดหากไม่มีคนเช่าจริงๆ ก็ยังปล่อยขายออกไปได้ และหากท่านเลือกซื้อบ้านเช่าที่ตั้งอยู่บนพื้นดินและบังเอิญว่าพื้นดินบริเวณนั้นมันขึ้นราคาตามที่มีการประเมินมันก็ยิ่งจะเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านหลังนั้นเข้าไปอีก
4.ซื้อหุ้น
การซื้อหุ้นนั้นคือการซื้อสิทธิที่จะเข้าไปบริหารรวมทั้งขอรับผลกำไรจากทรัพย์สินของตนไว้ ด้วยเหตุนี้เอง มันทำให้สามารถเติมเต็มความฝันของคุณที่อยากจะเป็นเจ้าของกิจการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ดี ร้านอาหารก็ดี ธุรกิจการบันเทิงก็ใช่ เราไม่จำเป็นจะต้องไปเริ่มต้นก่อตั้งบริษัทเองแต่อย่างใด หาแต่เราสามารถใช้วิธีการนําเงินไปลงทุนในการซื้อขายหุ้นน่าถือไว้อย่างระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้เราได้เงินปันผลจากบริษัทดังกล่าวได้แต่ละปี ข้อเสียหลักๆมันก็คือจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ให้มากๆ คนส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตไปก่อนมันก็เกิดจากไม่ยอมเรียนรู้และเชื่อฟังคำสั่งนั้นเอง
5.กองทุนรวม
เนื่องจากที่เห็นว่าหากเรานำเงินบริหารตนเองอาจจะล้มเหลวในที่สุด ในขณะที่เราต้องการสถานที่ลงทุน ซึ่งสุดท้ายเราก็ไปจบอยู่ที่การซื้อกองทุนรวม ซึ่งการออกกองทุนรวมนี้มักจะมีเพื่อนฝูงในทางนี้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งกองทุนรวมนั้นจะเป็นการที่ฝ่ายผู้บริหารจะเอาเงินของเราไปหมุนสร้างดอกผลกำไรข้อดีหลักๆมันก็คือการที่คุณจะไม่จำเป็นจะต้องไปสนใจรายละเอียดการลงทุนมากสักเท่าไหร่ การเลือกมอบเงินของเราให้กองทุนรวมนำไปลงทุนก็เป็นสิ่งที่ดีกว่าง่ายกว่ามาก
6.สะสมทอง
ว่ากันว่ามูลค่าของทองนั้นเป็นจะขึ้นและขึ้นยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามจึงจะกล่าวก็ยังพอจะมีราคาลงอยู่บ้าง ได้บางช่วงเวลา อันยองทำให้แมลงที่ราคาทองตกลงมาก็จะมีคู่ไปแย่งกันซื้อกระถางราคากับไปเก็บเท่าหรือมากกว่าที่เคย
7.สะสมของมีค่า
ของมีค่านี้ อาจเป็นของมีค่าทางใจที่มียี่ห้อ อาทิ สะสมนาฬิกาดังโรเล็ก สะสมกระเป๋ายี่ห้อดัง รถยนต์รุ่นคราสสิคที่เป็นที่นิยม และมีจำนวนจำกัด สะสมพระเครื่อง สะสมปืน สะสมสร้อยเพชร นิลจินดา ต่าง ๆ ที่มีแต่ราคาจะขึ้นมากขึ้นในทุกวัน
8.การสร้างงานที่มีลิขสิทธิ์
เป็นการทำเงินจากทักษะความเก่งกาจส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการแต่งเพลง การวาดภาพ วาดการ์ตูน การแต่งนิยาย เขียนหนังสือ ตำรา ที่สามารถเอาไปขายและทำเงินให้กับคุณได้มากขึ้นเรื่อย ๆ
ที่ได้กล่าวมาข้างต้น ก็ขังถือเป็นขั้นพื้นฐานในกดออกแล้วได้สะสมเงินทองตั้งแต่วัยหนุ่มไปจนถึงวัยชรา ในวันที่ต้องการคนดูแลตอนนี้ เรื่องเงินเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆ การที่จะได้พักผ่อนอย่างสบายไม่ต้องมาห่วงใยว่าพรุ่งนี้จะต้องทานอะไร