สำหรับผู้ที่มีช่วงอายุประมาณ 50 ปีลงมาซื้อไม่แตกคนแก่คนเฒ่าบางคนน่าจะพอรู้จักตัวละครการ์ตูนชื่อดังซึ่งเมื่อเห็นที่ไหนก็รู้เลยว่าเป็นใครนั่นก็คือ โดราเอมอน เจ้าหุ่นยนต์แมวอ้วนกลมบล็อกสีฟ้าจากโลกแห่งอนาคตที่ดันไม่มีหูแถมกวนหนูอีกต่างหาก ได้ย้อนเวลากลับมาคอยเป็นพี่เลี้ยงเด็กไม่เอาไหนสุดยอดจอมขี้เกียจ โนบิตะ เด็กแว่นซึ่งกำลังจะมีอนาคตอันเลวร้ายหากเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ซึ่งสำหรับบางท่านอาจจะมองว่าตัวการ์ตูนนั้นเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับเด็กหากแต่ข้อเท็จจริงแล้วสำหรับการ์ตูนเรื่องนี้นั้นมันเป็นสุดยอดตำนานการ์ตูนที่ถูกสืบต่อมายาวนานกว่า 50 ปี ในตอนนี้
ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ บิดาผู้ให้กำเนิด โดราเอมอน
แท้จริงแล้วนั้น ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ เป็นนามปากกาของนักเขียนเพื่อนซี้คู่กัน 2 คน นั่นก็คือ ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ และโมโตโอะ อาบิโกะ เกิดที่จังหวัดโทยามะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเพื่อนซี้รู้จักมักคุ้นกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 ณ โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในเมืองทากาโอกะ ซึ่งเมื่อพบคนที่คุยกันถูกคอในเรื่องของการ์ตูน ก็ได้มีการร่วมกันทำนิตยสารการ์ตูนทำมือขึ้น และร่วมกันฝึกวาดภาพการ์ตูนส่งไปยังคอลัมน์นิตยสารการ์ตูนต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็ได้รับการตอบรับบ้าง หลังจากที่ทั้งสองเรียนจบมัธยมศึกษาก็ได้แยกย้ายกันเข้าทำงานตามที่ต่างๆ หากแต่ด้วยเพราะโชคชะตากำหนด ฮิโรชิ ต้องได้รับบาดเจ็บระหว่างการทำงานในโรงงานลูกกวาดแห่งหนึ่งจึงได้ตัดสินใจลาออกมาทุ่มเทกับงานเขียนการ์ตูนอีกครั้งหนึ่ง ส่วน อาบิโกะ ก็ยังทำงานในบริษัทหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นแห่งหนึ่ง หากแต่ก็แวะออกมาช่วยเหลือเพื่อนซี้อยู่เป็นประจำ จนในที่สุดในปี 1953 ก็ได้มีการออกผลงานคู่กันที่ชื่อ ล่องลอย 400 ปีในนิตยสาร โบเก็นโอ และเรื่องอื่นๆเมื่อดูลู่ทางแล้วพอจะเจริญก้าวหน้าต่อไปได้ ก็ได้ตัดสินใจจับมือกัน 2 หนุ่ม คู่ซี้ เดินทางไปยังเมืองใหญ่ยังกรุงโตเกียว เพื่อแสวงหาความสำเร็จในฐานะนักวาดการ์ตูน โดยได้ย้ายไปอยู่ห้องเช่าเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นห้องเช่าของนักวาดการ์ตูนมือใหม่ทั้งหลาย มีคนเรียกกันเล่นๆว่า บ้านการ์ตูน จนมีการตั้งชมรมการ์ตูนยุคใหม่ขึ้น และทั้งสองก็ได้ร่วมกันสร้างผลงานใช้ชื่อว่า “ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ” มีผลงานเรื่องแรกของนามปากกานี้คือเรื่อง สายแร่อวกาศ จากนั้นได้มีการก่อตั้งบริษัท “สตูดิโอ zero” ซึ่งรวบรวมนักเขียนหน้าใหม่ที่เคยรู้จักกันในบ้านการ์ตูนออกมาร่วมกันสร้างผลงาน ซึ่งก็มีผลงานที่เราเคยได้ยินมากมายอาทิ ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง เจ้าหนูอะตอม และนักเขียนเพื่อนซี้ทั้งสองก็มีผลงานร่วมกันมาอีกหลายเรื่อง โด่งดังที่สุดนั่นก็คือเรื่อง ผีน้อยคิวทาโร่ ที่แฟนการ์ตูนในยุคเก่าน่าจะพอรู้จักมักคุ้นกันดี ซึ่งโด่งดังจนกระทั่งได้ทำเป็นการ์ตูน Animation ทางโทรทัศน์เลยทีเดียว ตามมาด้วย นินจาฮาโตริ, ปาร์แมน และ 21 เอมอน ที่เราล้วนเคยได้ยินมาแล้ว หากแต่สุดท้ายสตูดิโอก็ไปไม่รอดเพราะมีปัญหาเรื่องเงินจะต้องปิดตัวลง
กำเนิดโดราเอมอน
แม้ว่าบริษัทเดิมต้องปิดตัวลงไปแต่นักเขียนทั้งสองก็ยังคงไม่ย่อท้อ ว่ากันว่าเพราะ ฮิโรชิ ไปสะดุดตุ๊กตาล้มลุกตัวกลม จนเกิดไอเดียถึงหุ่นยนต์อนาคตตัวกลมสีฟ้าที่เดินทางมาช่วยคนผู้แสนขี้เกียจให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้สำเร็จ ทำให้นักเขียนทั้งสองได้ร่วมกันสร้างผลงานที่ชื่อว่า โดราเอม่อน ขึ้นในปี 1970 ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร โชกากุอิจิเน็นเซ โยเน็นเซ ในช่วงแรกไม่โด่งดังเท่าไหร่จนกระทั่งอีก 3 ปี ต่อมาได้รับการทำเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นออกฉายทางทีวีให้เด็กดูเท่านั้นแหละ ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ และในปี 1987 นักเขียนทั้งสองท่านก็ได้ตัดสินใจแยกนามปากกาเพื่อสร้างผลงานตามแนวทางของตนเอง ฮิโรชิ ใช้ชื่อ “ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ” ในขณะที่ ฮิบิโกะ ใช้ชื่อ “ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ (เอ)” ซึ่งโดราเอมอนได้รับการเขียนต่อมาโดยท่านอาจารย์ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ผู้เป็นคนเริ่มต้นการ์ตูนตัวนี้
โดราเอมอนการ์ตูนแห่งตำนานที่ยังถูกสานต่อ
ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ได้ทำการเขียนการ์ตูนเรื่องนี้มาเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1344 ตอน กล่าวถึงเรื่องราวของโดราเอมอน เจ้าหุ่นยนต์แมวจากโลกอนาคตที่นั่งไทยแมชชีนย้อนเวลามาโผล่ที่ลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือของ โนบิตะ เด็กชายสวมแว่นแสนขี้เกียจที่ชอบอ่านหนังสือการ์ตูน และนอนกลางวันจนสอบได้ 0 คะแนน ให้เปลี่ยนแปลงตัวเองเสียใหม่ ไม่งั้นจะได้พบกับอนาคตที่เลวร้ายและส่งผลถึงลูกหลานอีกด้วย มีเพื่อนสนิทอีก 3 คน นั่นก็คือ ชิซูกะ เด็กสาวผู้น่ารักเทพธิดาของกลุ่ม ซูเนโอะ เด็กชายลูกเศรษฐีร่ำรวยและขี้อวด ทาเคชิ หรือที่มีชื่อเล่นที่เรียกกันในกลุ่มว่าไจแอนท์ เด็กชาย ตัวใหญ่ซึ่งแต่เดิมตัวละครนี้ถูกสร้างมาให้เป็นเด็กนิสัยไม่ดีที่ชอบรังแกโนบิตะ แต่สุดท้ายก็พัฒนาการมาเป็นเพื่อนสนิทอีกคนที่ได้ร่วมการผจญภัยกับเรื่องราวต่างๆพร้อมกับของวิเศษจากโลกอนาคตในกระเป๋าของโดราเอมอน ซึ่งจุดเด่นที่เรารู้กันดีนั่นก็คือการ์ตูนเรื่องนี้นั้นยังไม่มีตอนจบที่แท้จริง โดยในขณะที่ตีพิมพ์อยู่นั้นยังเคยมีตอนหนึ่งซึ่งนักเขียนต้องการจะเขียนบทเป็นตอนจบให้กับการ์ตูนเรื่องนี้ว่า โดราเอมอน ตัดสินใจกลับสู่โลกอนาคตในขณะที่ โนบิตะ ก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองหันมาพึ่งพาตนเองไม่ให้เพื่อนหุ่นยนต์แมวต้องเป็นห่วง หากแต่เพราะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและมีแฟนการ์ตูนต่างเรียกร้อง ทำให้ทั้งสำนักพิมพ์และตัวอาจารย์ผู้เขียนจำต้องกลับมาเขียนโดราเอมอนต่อ
โดราเอมอนภาคพิเศษ
อีกจุดเด่นหนึ่งที่โดเรม่อนสามารถทำได้นั่นก็คือการมีภาพยนตร์อนิเมชั่นออกฉายในโรงภาพยนตร์เป็นของตนเอง ซึ่งมีการ์ตูนไม่กี่เรื่องที่จะสามารถทำได้ ด้วยความที่โดราเอมอนนั้นโด่งดังมากจึงมีการสร้างตอนพิเศษออกฉายในโรงภาพยนตร์เป็นประจำทุกปี โดยใช้เค้าโครงเรื่องมาจากต้นฉบับตอนพิเศษที่ถูกวาดเป็นการ์ตูนของอาจารย์ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ เอง จนกระทั่ง ในปี 1996 อาจารย์ผู้เขียนโดราเอมอน ก็ได้ถึงแก่กรรมลงด้วยวัย 62 ปี จากอาการป่วยส่วนตัว ซึ่งว่ากันว่าในขณะที่ท่านจะอาการกำเริบ และเสียชีวิตนั้นท่านก็อยู่ในระหว่างการจับปากกาเขียนต้นฉบับโดราเอม่อนตอนพิเศษด้วยเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นอาจารย์ผู้เขียนซึ่งเกิดมาเพื่อให้กำเนิดสุดยอดตัวการ์ตูนที่มอบความสุขให้กับเด็กๆ และคนทั่วโลกตลอดไป ซึ่งเมื่อนับช่วงเวลาปัจจุบันจะเห็นได้ว่า โดราเอม่อนถือกำเนิดเป็นเวลาก้าวสู่ปีที่ 50 แล้ว
ในเรื่องเล่าที่แสนประทับใจของแฟนการ์ตูนเรื่องนี้คนหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมห้องจัดแสดงภาพห้องทำงานของอาจารย์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้อาจารย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น มุมหนึ่งของผนังจะมีการบอกช่วงเวลาเรื่องราวอัตชีวประวัติตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเข้ามาเป็นนักเขียน และผลงานที่ผ่านมา ไล่มาจนถึงช่วงเวลาที่อาจารย์เสียชีวิต จากนั้นจะเว้นว่างเอาไว้ และก็จบท้ายด้วยปีที่ โดราเอมอนเกิด! ช่างเป็นความประทับใจเล็กๆที่สร้างรอยยิ้มเสียงหัวเราะ และหยดน้ำตาด้วยความคิดถึงช่วงวัยเด็กของแฟนการ์ตูนจริงๆ